มารู้จัก “โรคทอนซิลโตในเด็ก” กันดีกว่า
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
18-ต.ค.-2565
title อย่างที่เรารู้กันดีว่า “ต่อมทอนซิล” มีบทบาทสำคัญมากในเด็ก เพราะเป็นเสมือนป้อมปราการแรกที่ช่วยดักจับ และกรองเชื้อโรคไม่ให้เข้าไปในร่างกาย แต่หลาย ๆ ครั้งที่ทอนซิลก็กลายเป็นผู้ร้าย ทำลายสุขภาพเสียเอง เมื่อเป็นแล้วจะต้องได้รับการดูแลอยู่อย่างใกล้ชิดและต้องรักษาให้หายขาด เพื่อไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยระวัง และทำความรู้จักโรคนี้ให้ดีขึ้น

สาเหตุของทอนซิลอักเสบ
อย่างที่บอกว่าต่อมทอนซิลมีหน้าที่กรองเชื้อโรค ในวันที่ร่างกายอ่อนแอ หรือรับเชื้อโรคมาเยอะ เขาก็ต้องทำงานหนัก ทำให้ทอนซิลมีอาการบวมแดง โต และอักเสบในที่สุด ซึ่งตัวการของโรคทอนซิลก็แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ เกิดจากติดเชื้อไวรัส และเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

ซึ่งกว่า 80% จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งไม่เป็นอันตราย เพียงแค่ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานยาควบคู่ไปด้วย เพียงเท่านี้ลูกก็จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

ในขณะที่อีก 20% ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งค่อนข้างร้ายแรงและน่าเป็นห่วง ต้องให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อทำการรักษาให้หายขาด ไม่เช่นนั้นจะเปิดโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้

จุดสังเกตอาการของทอนซิลอักเสบ…จากเชื้อแบคทีเรีย
อาการจะคล้ายๆ เป็นหวัด เด็กจะมีไข้ ปวดหัว มีน้ำมูก เจ็บคอมาก ไม่อยากอาหาร เพราะกลืนน้ำ กลืนข้าวลำบาก คอบวมแดง มีอาการเจ็บบริเวณด้านข้างของช่องปากทั้งสองฝั่ง

อันตรายของการเป็นโรคต่อมทอนซิล
เมื่อเด็กเป็นโรคต่อมทอนซิลจะรู้สึกเจ็บคอเวลาต้องกลืน ทำให้ไม่ยอมทานข้าว หรือทานน้อยลงซึ่งอาจทำให้กลายเป็นขาดสารอาหารได้ นอกจากนี้ อาการอักเสบสามารถลุกลามไปยังคอ ปอด หัวใจ และไตได้ ซึ่งเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนต่างๆ มากมายเมื่อต่อมทอนซิลโตก็อาจไปอุดกั้นทางเดินหายใจได้ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะสังเกตตอนนอนว่าเด็กจะกรนเสียงดัง บางคนอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือสะดุ้งตื่นบ่อย ซึ่งล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ของเด็กทั้งสิ้น สุดท้ายเมื่อเชื้อแบคทีเรียซึมเข้าสู่กระแสเลือด ก็จะทำให้เลือดเป็นพิษ ส่งผลร้ายแรงให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

วิธีการรักษา
เมื่อลูกเจ็บคอมากให้พาไปพบแพทย์ เพื่อให้วินิจฉัยอาการ และรักษาอย่างถูกต้อง โดยการรักษาจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ

  • ขั้นต้น ในกรณีที่เป็นจากเชื้อไวรัส แพทย์จะแนะนำให้พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารรสอ่อน กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ให้ยาแก้ปวด ลดไข้ตามอาการ

  • ขั้นกลาง ถ้าอาการรุนแรงขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ อาการป่วยจะดีขึ้นใน 2-3 วัน

  • ขั้นรุนแรง ในกรณีที่เป็นบ่อย และรุนแรง มีการอุดกั้นทางเดินหายใจร่วมด้วย และเป็น 3-4 ครั้งภายในหนึ่งปี แพทย์จะพิจารณาผ่าตัด เพื่อรักษาให้หายขาด


สุดท้ายแล้วการป้องกันที่ดีที่สุด คือการดูแลลูกให้แข็งแรง พักผ่อนอย่างเพียงพอ ทานอาหารครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ต่อมทอนซิลจะได้ไม่ต้องทำงานหนักและส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วย



ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
กุมารเเพทย์ ศูนย์กุมารเวช  อาคาร 3 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 3320-3221
Line id : @Paolochokchai4