นอกเหนือการเรียนในโรงเรียนเเล้ว การที่น้องๆ มีประสบการณ์นอกห้องเรียนก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างรอบด้าน …
โครงการ Kids Camp
กิจกรรมกระตุ้นและส่งเสริมทักษะสังคมของเด็ก ที่จะเปลี่ยนเด็กเอาแต่ใจ ให้รู้จักการแบ่งปั่น ให้น้องๆ กล้าแสดงออก รู้จักทักษะการเข้าสังคม เหมาะสำหรับน้องๆ อายุ 3-7 ปีที่มีเวลาว่างช่วงปิดเทอม มาทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมทักษะสังคมของเด็ก โดยมีนักกิจกรรมบำบัดจัดกิจกรรมให้ ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก
Classes
Class 1
วันที่ 5-10 มีนาคม 2561
Register Click →
Class 2
วันที่ 12-16 มีนาคม 2561
Register Click →
Class 3
วันที่ 19-23 มีนาคม 2561
Register Click →
Class 4
วันที่ 26-30 มีนาคม 2561
Register Click →
สถานที่ : ณ ห้องพัฒนาการเด็ก อาคาร 1 ชั้น 3 โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ช่วงเวลา 09.00 – 12.00 น. ของวันจันทร์ – ศุกร์ ตลอดเดือน มีนาคม 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-271-7000 ต่อ 10310-10311
ในกิจกรรมเราจะเปิดโอกาสให้เด็กได้พัฒนาตัวเอง เช่น ทักษะการเข้าสังคม รวมถึงการเตรียมทักษะการเข้าโรงเรียนของเด็กในแต่ละวัย
1. กิจกรรมเปิดกลุ่ม และ Sensory Motor
ในการเปิดกลุ่ม ผู้นำกลุ่ม (นักกิจกรรมบำบัด) จะทำหน้าดำเนินการเปิดกลุ่ม โดยเปิดโอกาสให้เด็กได้แนะนำตัวเอง และทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ก่อนที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป ส่วนกิจกรรม Sensory Motor เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ออกแรงในการเคลื่อนไหว โดยนักกิจกรรมบำบัดจะจัดฐานปีนป่ายให้เหมาะสมกับเด็ก ในขณะทำกิจกรรมเด็กแต่ละคนก็ต้องเรียนรู้การทำตามลำดับ รอคอยเพื่อนๆ ด้วย ยกตัวอย่าง เช่น เพื่อนข้างหน้ากำลังเดินสะพานอยู่ เด็กคนถัดไปก็ต้องตามหลังเพื่อน ไม่แซงเพื่อน และรู้จะเว้นระยะห่างให้เหมาะสม ไม่ชนเพื่อน เป็นต้น
2. Break
ในส่วนนี้จะให้เด็กได้พักช่วง ไปล้างมือ แล้วมานั่งที่โต๊ะ พักดื่มนมและทานอาหารว่าง เป็นการฝึกการทำตามหน้าที่ ควบคุมตัวเอง เช่น ขณะเดินไปล้างมือก็ต้องต่อคิวตามลำดับ และมานั่งดื่มนมที่เก้าอี้ของตนเอง ไม่ลุกวิ่งไปมา เป็นต้น
3. Social Game
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะสังคม เปิดโอกาสให้เด็กได้เล่นกับเพื่อนๆ การเข้าหาเพื่อน และช่วยเหลือกัน เช่น เกมช่วยกันแบก ให้เด็กจับคู่กันแล้วหยิบบอลคนละ 1 ลูกใส่ตะกร้าใบใหญ่ แล้วช่วยกันจับตะกร้าคนละฝั่ง เดินข้ามสิ่งกีดขวางเพื่อเอาบอลไปใส่ตะกร้าอีกฝั่ง เป็นต้น
4. DIY Toys
เป็นกิจกรรมงานประดิษฐ์ของเล่นออกมา โดยขณะทำกิจกรรมเด็กก็ต้องมีสมาธิจดจ่อทำตามผู้นำกลุ่ม เรียนรู้ทำตามขั้นตอนของกิจกรรมได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน แล้วก็จะได้ผลงานสิ่งประดิษฐ์ออกมา และสามารถนำมาเล่นกับเพื่อนๆ ได้
5. Sport
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเล่นแบบมีกฎกติกา ยอมรับการแพ้หรือชนะในเกมการแข่งขันต่างๆ เช่น เกมวิ่งเปี้ยว แบ่งเด็กออกเป็น 2 ทีม ยืนเรียงแถว โดยคนแรกของแถวจะมีของไว้ในมือ พอผู้นำกลุ่มให้สัญญาณเริ่ม คนแรกต้องวิ่งไปอ้อมกรวยแล้วเอาของส่งให้เพื่อนคนถัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบทุกคนในทีม ทีมใดครบก่อนทีมนั้นก็จะชนะ เป็นต้น
6. Fine Motor
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก หรือกล้ามเนื้อมือในการทำงาน เพื่อเพิ่มกำลังและความทนทานของกล้ามเนื้อมือช่วยให้เขียนหนังสือได้นานดีมากขึ้น เช่น กิจกรรมใช้ช้อนกลางช่วยกันตักเมล็ดถั่วแดงใส่กะละมัง กิจกรรมกดดินในน้ำบนรูปภาพ เป็นต้น
7. Science
เป็นกิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์อย่างง่าย ผู้นำกลุ่มจะเป็นผู้สอนและอธิบายขั้นตอนต่างๆ เด็กต้องสามารถจ่อจอขั้นตอน และทำตามได้ เช่น กิจกรรมสีเต้นระบำ เด็กต้องรู้ว่าใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ขั้นตอนทำอย่างไร และเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะทำให้เด็กๆ จะรู้สึกตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจได้ดี
8. Art & Craft
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ได้ใช้จินตนาการ ช่วยกันออกแบบอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน เช่น มีภาพพื้นดิน กับท้องฟ้า ให้เด็กช่วยกันตกแต่งว่ามีอะไรบ้างที่อยู่บนท้องฟ้า และมีอะไรบ้างที่อยู่บนพื้นดิน เป็นต้น
9. Tactile Play
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้การรับสัมผัส โดยให้เด็กได้มีโอกาสสัมผัสพื้นผิวที่หลากหลาย เช่น เด็กๆ ช่วยกันควานหาโมเดลสัตว์ที่อยู่ในกะละมังเม็ดแมงลัก กิจกรรมหาลูกแก้วในโฟมโกนหนวด เป็นต้น
10. Cooking
เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ฝึกทำอาหาร หรือขนมง่ายๆ เด็กก็จะได้เรียนรู้ขั้นตอนของการทำ และลงมือทำ เช่น แซนวิชโรล เจลลี่ฟรุตสลัด เป็นต้น
11. Kids Class & Perception
เป็นกิจกรรมเพื่อสรุปเนื้อหา สิ่งที่ได้เรียนรู้ของสัปดาห์ทั้งหมด จะมีแบบฝึกหัดให้เด็กได้ทำ 1-2 แผ่น เช่นสัปดาห์นี้เรียนรู้เรื่องสัตว์ไป มีแบบฝึกหัดโยงเส้นจับคู่หน้าและตัวของสัตว์ หรือจับคู่สัตว์กับเงาสัตว์ เป็นต้น
12. Lunch
กิจกรรมการรับประทานอาหารกลางวัน เด็กทุกคนจะต้องรับประทานอาหารบนโต๊ะ มีถาดข้าวของตัวเอง เป็นการฝึกฝนการช่วยเหลือตนเอง ฝึกการจับช้อนส้อมทานอาหารให้ถูกต้อง และทานอาหารไม่หกเลอะเทอะ เป็นต้น
13. ADL & Free Play
ในส่วนของ ADL เป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกฝนการช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็ยกถาดข้าวไปเก็บ ไปข้างห้องน้ำ ล้างมือ เป็นต้น รวมถึงการฝึกสวมหรือถอดเสื้อผ้า/รองเท้าด้วย หลังจากนั้นก็เป็นการเล่น Free Play ให้เด็กได้เล่นอิสระกับเพื่อนๆรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน
พญ. ดลจรัส ทิพย์มโนสิงห์
ลออรัตน์ คำน้อง (นักกิจกรรมบำบัด)