ปัญหาหลัก ของคุณผู้หญิงที่ควรรู้ และค้นหาคำตอบโรคฮอตฮิตที่พบได้บ่อย พร้อมกับวิธีสังเกตเบื้องต้นว่า คุณกำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคใดหรือไม่
ช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) เกิดขึ้นบริเวณภายในช่องคลอด และปากช่องคลอด อาการที่พบบ่อย คือ อาการตกขาวผิดปกติ คัน กลิ่น ตกขาวปนเลือด แสบร้อนในช่องคลอด ซึ่งการวินิจฉัยโรคสามารถทำโดยการตรวจภายใน ร่วมกับการนำตกขาวไปตรวจ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดช่องคลอดอักเสบ ว่ามีที่มาจากเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง เนื่องจากการจัดการแต่ละสาเหตุมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งได้โดยสังเขป ดังนี้- ตกขาวจากเชื้อรา เกิดจากความอับชื้น โดยตกขาวชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแป้ง และมีอาการคันบริเวณช่องคลอด
- ตกขาวจากเชื้อแบคทีเรีย ตกขาวจะมีกลิ่นเหม็นคาว หรือมีกลิ่นภายหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดช่องคลอดอักเสบ คือ การสวนล้างช่องคลอด การใช้แผ่นอนามัย การใส่กระโปรง หรือกางเกงรัดรูป เนื่องจากจะทำให้ขาบีบชิดกันมากเกินไป ผู้ที่รับประทานยาแก้อักเสบบ่อยๆ หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ก็จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมในช่องคลอดเกิดความเปลี่ยนแปลงไปจึงเกิดตกขาวได้ง่าย เป็นต้น เมื่อมีอาการควรรีบพบแพทย์ เนื่องจากหากเกิดอาการบ่อยๆ บริเวณปากมดลูกจะเกิดการระคายเคือง และอาจส่งผลเกี่ยวเนื่องกับมะเร็งปากมดลูกได้
ประจำเดือนผิดปกติ ผู้ที่ประจำเดือนมาผิดปกติ ส่วนใหญ่จะมาพบแพทย์ด้วยอาการ ประจำเดือนออกกระปริด กระปรอย ประจำเดือนมามาก หรือน้อยเกินไป และประจำเดือนขาดหายโดยมิได้เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ อาการเหล่านี้ อาจส่งผลถึงการทำงานของรังไข่ และหากเกิดในผู้สูงอายุอาจเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก สาเหตุหลักของประจำเดือนที่มาผิดปกติ การตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การตรวจภายใน และการตรวจอัลตร้าซาวด์หน้าท้องหรือช่องคลอดก้อนบริเวณท้องน้อย สำหรับก้อนบริเวณท้องน้อยของผู้หญิง จะมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ปัสสาวะบ่อย เลือดออกผิดปกติ คลำเจอก้อน น้ำหนักลด ส่วนใหญ่มักจะเป็นอาการนำของโรคทางนรีเวชในหลายๆ โรค อาทิ เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก เนื้องอกรังไข่ และท่อนำไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ฯลฯ สามารถตรวจวินิจฉัยด้วยการตรวจภายในอัลตร้าซาวด์ เพื่อหาที่มาของสิ่งผิดปกติที่พบ และจำแนกว่าเป็นถุงน้ำ ก้อนเนื้อธรรมดา หรือมะเร็ง เป็นต้น
มะเร็งอวัยวะสีบพันธ์ นับได้ว่าเป็นโรคมะเร็งอันดับต้นๆ ที่เป็นภัยร้ายคร่าชีวิตผู้หญิงไทยไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ภัยดังกล่าวจะมีอัตราลดลงบ้าง เนื่องจากผู้หญิงมีความตื่นตัว และใส่ใจกับโรคทางนรีเวชมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงเกิดได้หลายส่วน มะเร็งปากมดลูกพบมากที่สุด มะเร็งรังไข่พบมากเป็นอันดับสองการจัดการตนเองเบื้องต้นสำหรับผู้หญิงเกี่ยวกับช่องคลอด
หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด ใช้แผ่นอนามัยเฉพาะช่วงวันที่มีประจำเดือน หลีกเลี่ยงการใส่กระโปรง หรือกางเกงรัดรูป ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมน้ำหนักตามเกณฑ์ที่กำหนด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากไขมันเป็นสารตั้งต้นของการเกิดโรคหลายชนิด อาทิ มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 0-2271-7000 ต่อ สุขภาพสตรี