วัยทำงานกับโรคตาสุดฮิต...พร้อมเทคนิคการดูแล
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
04-มี.ค.-2562
เพราะในแต่ละวันต้องเพ่งสายตาเพื่อจ้องตัวหนังสือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ยาวนานหลายชั่วโมง รวมไปถึงการเดินทางที่ต้องเผชิญมลภาวะทางอากาศตั้งแต่ก้าวขาออกจากบ้านจนถึงออฟฟิศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพดวงตาโดยไม่รู้ตัว มีโรคเกี่ยวกับตาแบบไหนที่วัยทำงานต้องระวัง! มาดูกัน

1. สายตาผิดปกติ

ภาวะสายตาผิดปกติ คือการที่เรามองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจนเหมือนเดิม อาจเกิดจากสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหาภาวะสายตาผิดปกติ เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดี ได้ดังนี้

ใช้แว่นตา นี่เป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัย โดยในการวัดค่าสายตาเพื่อตัดแว่นในครั้งแรก ควรปรึกษา จักษุแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยว่าไม่มีโรคทางอื่นๆ ร่วมด้วย และหากใช้แว่นตาไปซักระยะแล้วการมองเห็นกลับมาไม่คมชัด หรือมีอาการปวดตา ปวดศีรษะ ควรเข้ารับการวัดค่าสายตาใหม่อีกครั้ง

- ใช้คอนแทคเลนส์ การใช้คอนแทคเลนส์อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณกระจกตา ซึ่งอันตรายถึงตาบอดได้ ดังนั้นผู้ใช้คอนแทคเลนส์ควรให้ความสำคัญกับการดูแลทำความสะอาดอย่างถูกต้อง ไม่ใส่ตอนนอนหลับ และปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องวิธีใช้อย่างเคร่งครัด

ใช้เลเซอร์แก้ไขสายตา เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ทั้งนี้ผู้ที่มีปัญหาสายตาผิดปกติควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากเทคโนโลยีเลเซอร์นี้อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรค

2. โรคต้อลมและต้อเนื้อ

จากหลักฐานการแพทย์ได้ระบุไว้ว่า “ต้อลม” เกิดจากการที่ดวงตาถูกรังสียูวีในแสงแดดสะสมเป็นระยะเวลานานหลายปี ทำให้เซลล์เยื่อบุตาขาวสร้างสารโปรตีนและไขมันมากกว่าปกติ เกิดเป็นก้อนหรือแผ่นหนาสีขาวเหลืองบนเยื่อบุตาขาวข้างกระจกตาดำ และเมื่อต้อลมขยายตัวใหญ่และหนาขึ้นจนลามเข้าไปในกระจกตาดำ เรียกภาวะนี้ว่า “ต้อเนื้อ” ซึ่งการลุกลามนี้จะส่งผลทำให้ตามัวลงจนมองเห็นไม่ชัด

การป้องกันดวงตาไม่ให้เสี่ยงต้อลมและต้อเนื้อ คือ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ดวงตาถูกแสงแดด ลม ฝุ่นละออง โดยการสวมแว่นตากันแดดเมื่อต้องออกไปในที่โล่งแจ้ง

3. ภาวะตาแห้ง

แน่นอนว่ายุคดิจิตอลแบบนี้...วัยทำงานเกือบแทบทั้งหมดต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ 8-10 ชั่วโมง แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มักประสบกับปัญหา “ภาวะตาแห้ง” ซึ่งสามารถดูแลสุขภาพดวงตาของคุณได้ ด้วยวิธีเหล่านี้

หลีกเลี่ยงการเพ่งหน้าจอเป็นเวลานานๆ ควรหยุดพักหรือละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 30 นาที โดยการมองออกไปบริเวณกว้างๆ เช่น มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างน้อย 3-5 นาที เพื่อช่วยลดอาการปวดตาหรือตาพร่าได้

-
ปรับความสว่างของหน้าจอ ไม่ให้หน้าจอสว่างมากจนเกินไป เพื่อให้รู้สึกสบายตาและไม่ทำให้ตาแห้งหรือแสบตาได้

สวมแว่นถนอมสายตา เพื่อช่วยกรองแสงจอคอมพิวเตอร์ที่จะมาสัมผัสกับดวงตาให้ลดน้อยลง และยังช่วยป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมในอนาคตได้อีกด้วย

สอบถามรายละเอียด

อาคาร 1 ชั้น 1 โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
คลินิกตา โทร.02-514-4141 ต่อ 1100 – 1101