“ไส้ติ่งอักเสบ” ผู้ใหญ่อย่างเราอาจจะคุ้นเคยดีและคิดว่าไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่สำหรับเด็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารถึงอาการปวดให้พ่อแม่รู้ได้ บวกกับการตรวจวินิจฉัยที่ค่อนข้างยากกว่า ทำให้โรคที่ดูไม่ร้ายแรงนี้ พร้อมที่จะพรากชีวิตลูกของคุณ หากเรารู้ช้าเกินไป!!!

ไส้ติ่ง..ทำไมถึงเกิดการอักเสบได้!  
โดยประมาณ 80 % พบว่าอาการไส้ติ่งอักเสบเกิดจากต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ส่วนโคนไส้ติ่งมีภาวะบวมขึ้นมา ทำให้โพรงไส้ติ่งเกิดอุดตัน และอีกประมาณ 20 % พบว่าเกิดจากการมีเศษอุจจาระตกลงไปในโพรงไส้ติ่งจนทำให้เกิดการอุดตัน ซึ่งการอุดตันนี้แหละ ที่ทำให้เกิดเป็นภาวะ “ไส้ติ่งอักเสบ”

อาการที่บ่งบอกว่าเป็น “ไส้ติ่งอักเสบ” 
เด็กจะมีอาการปวดท้อง โดยเริ่มจากบริเวณตรงกลางๆ ท้องแถวรอบสะดือ ก่อนจะย้ายมาเป็นตำแหน่งบริเวณด้านขวาล่างของช่องท้อง ปวดรุนแรงถึงขั้นตัวงอ พร้อมทั้งมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน หรือมีไข้สูง แต่ในเด็กบางรายอาการอาจจะไม่ชัดเจน และในบางรายก็มีอาการถ่ายเหลวร่วมด้วย ทำให้พ่อแม่คิดว่าเป็นอาการปวดท้องที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ

สิ่งที่ห้ามทำ…เพราะอาจปิดบังอาการ 
อย่างที่บอกไปแล้วว่า พ่อแม่หลายๆ คนที่เข้าใจผิดคิดว่าลูกปวดท้องด้วยสาเหตุอื่น ทำให้เลือกรักษาโดยการให้เด็กทานยาแก้อักเสบหรือยาแก้ปวด อาการจึงไม่แสดงออกมาให้เราเห็น และทำให้การตรวจพบล่าช้าหรือผิดพลาด ระดับความร้ายแรงจึงสูงขึ้น!!

เมื่อ “ไส้ติ่งแตก” ทำไมถึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
เพราะการอักเสบของไส้ติ่ง คือผลจากการ “อุดตัน” ไส้ติ่งที่อักเสบจึงมีลักษณะบวมแดงและค่อยๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อถูกปล่อยไว้นานไม่ได้รับการผ่าตัด ก็จะเกิดการเน่าและแตก! ทำให้หนองแพร่กระจายในช่องท้อง เกิดการติดเชื้อขึ้นและลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิต!

หากสังเกตว่าลูกของคุณมีอาการปวดท้องในลักษณะดังที่กล่าวมา หรือไม่แน่ใจในอาการ ควรรีบพาไปพบแพทย์ เพราะ “ไส้ติ่งอักเสบในเด็ก” เสี่ยงต่อการแตกได้เร็วกว่าผู้ใหญ่! และแม้ว่าการผ่าตัดจะฟังดูน่ากลัวสำหรับเด็ก แต่ท้ายที่สุดแล้ว วิธีนี้ก็เป็นเพียง “หนทางเดียว” ที่รักษาโรคไส้ติ่งอักเสบให้หายได้

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
ศูนย์ศัลยกรรม 
อาคาร 2  ชั้น 2 โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 1102 – 1105

Line id : @Paolochokchai4