เมื่อเริ่มมีแผนการสำหรับสมาชิกใหม่ การเตรียมความพร้อมเป็นการเริ่มต้นที่ดี อันดับแรกควรมีการตรวจสุขภาพทั่วไป เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต ไทรอยด์ เป็นต้น สำรหับผู้หญิงที่มีโรคประจำตัวดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ว่าสมควรจะตั้งครรภ์หรือไม่ หรือถ้าตั้งครรภ์แล้วจะมีอันตรายกับแม่ และลูกอย่างไร
ควรพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจเลือดเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร ประกอบด้วยการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เกล็ดเลือด กรุ๊ปเลือด ภาวะเลือดจางจากธาลัสซีเมีย การติดเชื้อตับอักเสบบี เอชไอวี และซิฟิลิส ตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน และตับอับเสบบี การตรวจภายใน เช็คมะเร็งปากมดลูก รวมถึงควรตรวจอัลตราซาวด์หาความผิดปกติของมดลูก และรังไข่ การดูแลหญิงตั้งครรภ์ควรเตรียมร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างน้อย 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ คนที่อ้วนมากๆ ทางที่ดีควรลดน้ำหนัก คุมอาหาร และปรับพฤติกรรมการกินก่อนที่จะตั้งครรภ์ และควรรับประทานโฟลิคแอซิดเสริมก่อนการตั้งครรภ์ สุดท้ายควรวางแผนเรื่องความพร้อมทางการเงิน การทำงาน และการเลี้ยงดูบุตร
ว่าที่คุณแม่ในสามเดือนแรก จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยง่าย ทานได้น้อย เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ควรพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารเท่าที่กินได้อย่าฝืน อาหารที่กินแล้วอาเจียนก็ควรหลีกเลี่ยง งดอาหารรสจัด ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และพบสูตินรีแพทย์เพื่อฝากครรภ์ในเบื้องต้น ในช่วงนี้ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง เลือดออก แพ้ท้องมาก กินไม่ได้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาเหตุ และจัดการโดยเร็ว
ช่วงไตรมาสที่สอง เป็นช่วงที่มีการตรวจหาความผิดปกติด้วยการทำอัลตราซาวด์ ตรวจเลือดหาภาวะเสี่ยงกลุ่มอาการดาวน์ เจาะน้ำคร่ำในกรณีที่มีความเสี่ยงต่อภาวะโครโมโซมผิดปกติ ว่าที่คุณแม่จะเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น อาจมีอาการเจ็บๆ ตึงๆ บริเวณท้องน้อย และเริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ได้ ควรได้รับการเสริมธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ รวมถึงแคลเซียมด้วย ที่สำคัญควรควบคุมให้น้ำหนักตัวเพิ่มตามเกณฑ์คือ สองกิโลกรัมต่อเดือน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ดี เช่น ว่ายน้ำ เล่นโยคะ ทำท่ากายบริหารต่างๆ
ในไตรมาสที่สาม ถือว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภ์ มารดาจะเริ่มมีอาการอึดอัด แน่นท้อง ปวดเอว ปวดหลัง นอนไม่หลับ มือเท้าบวม แนะนำให้พักผ่อนมากๆ เท่าที่ทำได้ ทานอาหารมีประโยชน์ ได้แก่ ไข่ นมจืด ผัก ผลไม้ไม่หวานมาก รวมถึงถั่วชนิดต่างๆ เพราะเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ เด็กโตช้าได้ ดังนั้น ควรไปตรวจครรภ์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ คุณแม่ที่กำลังทำงานควรมีการวางแผนล่วงหน้า เตรียมพร้อมในกรณีที่มีความจำเป็นต้องหยุดงานก่อนกำหนดไว้ด้วย