เดี๋ยวท้องอืด เดี๋ยวท้องเสีย เดี๋ยวปวดท้อง ท้องผูก คลื่นไส้ อาการเบสิคๆ เหล่านี้ หลายคนก็เป็นกันบ่อยๆ มาตั้งแต่จำความได้ เลยไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร นี่เลยเป็นสาเหตุว่า ทำไมโรคความผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินอาหารทั้งหลายจึงกลายเปนโรคเรื้อรัง หรือรุนแรงเมื่อมาตรวจพบโรคในระยะหลังๆ ดังนั้น ทางที่ดี มารู้จักอาการเบื้องต้นของ “โรคระบบทางเดินอาหาร” ต่างๆ อาการไหนที่ไม่ใช่ปกติ และยังบ่งบอกถึงโรคอะไรได้บ้าง
ปวดจุกท้องใต้ลิ้นปี่ มักปวดตอนหิว และหลังกินอิ่ม = อาการโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
เกิดจากกรดในกระเพาะหลั่งออกมาและทำลายผนังเยื่อบุเมือกในกระเพาะอาหาร จนอักเสบหรืออาจเกิดเป็นแผล หรืออีกสาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอักเสบคือการติดเชื้อแบคทีเรียเอช ไพโลไร จากการกินอาหารที่มีเชื้อนี้เข้าไป ดังนั้นในช่วงเวลาที่ท้องว่าง น้ำย่อยจึงยิ่งหลั่งออกมาเพิ่มกรด จนไปกัดเยื่อบุผนังในกระเพาะทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรง
ถ่ายเหลวเป็นน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง = อาการโรคลำไส้อักเสบ
หากเป็นโรคลำไส้อักเสบเฉียบพลัน มักเกิดจากการทานอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป และเราพอจะเดาได้เพราะมีอาการคล้ายกับท้องร่วงหรืออุจจาระร่วงเฉียบพลัน เริ่มจากอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจถ่ายมากถึง 10 ครั้งต่อวัน คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องบิดรุนแรงเป็นระยะๆ อาจมีไข้สูงร่วมด้วย และอ่อนเพลียจากการเสียน้ำในร่างกาย ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องระวัง เพราะอาจเกิดอาการช๊อกจากภาวะร่างกายขาดน้ำได้ จึงควรดื่มเกลือแร่เพื่อทดแทน หรือจิบน้ำสะอาดมากๆ แต่หากมีอาการต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ อาจเข้าข่ายโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ซึ่งต้องรักษาอย่างต่อเนื่องให้หายขาด
ท้องเสียบ่อย สลับกับท้องผูก แน่นท้อง ไม่สบายท้อง = โรคลำไส้แปรปรวน
หรือเรียกอีกอย่างว่าโรคไอบีเอส Irritable Bowel Syndrome โรคที่เกิดขึ้นมากที่สุดในกลุ่มคนวัยทำงาน เป็นภาวะเรื้อรังของลำไส้ แม้จะไม่ได้เป็นโรครุนแรงแต่ก็ทำให้ใช้ชีวิตได้ยาก บางคนอาจมีอาการท้องเสียอย่างเดียวหรือท้องผูกอย่างเดียว บางคนอาจท้องเสียและท้องผูกสลับกัน ว่ากันว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตและความเครียดอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคลำไส้แปรปรวน การรักษาลำไส้แปรปรวน หากไม่รุนแรงทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง ทานอาหารที่มีกากใย ดื่มน้ำให้เพียงพอ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงชา กาแฟ
ปวดแสบร้อนหน้าอกหรือลิ้นปี่ หลังกินอาหาร เรอบ่อย ขมคอ = โรคกรดไหลย้อน
อีกโรคที่คนทำงานยุคนี้เป็นกันมาก เนื่องจากพฤติกรรมการทานอาหารดึก ทานแล้วนอนเลย หรือทานอาหารเครื่องดื่มที่มีกรดสูง ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหาร หรือพฤติกรรมการทานบุฟเฟ่ท์จนอิ่มเกินไปก็มีส่วนให้เกิดโรคกรดไหลย้อน ยิ่งคนที่มีน้ำหนักมากก็จะมีแรงดันในช่องท้องเยอะ ส่งผลให้ดันกรดให้ไหลย้อนขึ้นมามากกว่าปกติ หากเป็นเรื้อรัง โรคกรดไหลย้อนอาจพัฒนาไปเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารได้
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
อาคาร 1 ชั้น 2 โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 1210 – 1211
Line id : @Paolochokchai4
.jpg)
ปรึกษาแพทย์ออนไลน์
