มะเร็งปากมดลูก มะเร็งอันดับสองของสตรีที่ป้องกันได้ด้วยการตรวจคัดกรอง
โรงพยาบาลเปาโล
05-พ.ค.-2564
สำหรับสาวๆ คนไหนที่พยายามหลีกเลี่ยงการตรวจมะเร็งปากมดลูกกันอยู่ ลองอ่านสิ่งที่เรากำลังจะบอกนี้ดู แล้วคุณจะเห็นว่าการตรวจมะเร็งปากมดลูกนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด โดยเฉพาะสาวๆ ที่กำลังเตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาว หรือกำลังเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ อย่าปล่อยให้มะเร็งร้ายมาเยือน เพียงเพราะคำว่ากลัว

เพราะ “มะเร็งปากมดลูก” หนึ่งในโรคมะเร็งร้ายที่พบได้บ่อยในผู้หญิงไทยรองเป็นอันดับสองจากมะเร็งเต้านม และเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึง 7 คนต่อวัน! ทั้งที่จริงๆ แล้ว มะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันได้ และหากตรวจพบเร็ว...ทำการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ก็ไม่ใช่โรคที่น่ากังวลใจ ดังนั้น ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และไม่มองข้าม...สัญญาณผิดปกติเหล่านี้!

อาการเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม

  • ประจำเดือนมานานผิดปกติ
  • ประจำเดือนมาๆ หยุดๆ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย
  • มีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน
  • มีอาการเจ็บ หรือมีเลือดออกระหว่างมีเพศสัมพันธ์
  • มีตกขาวมากผิดปกติ และอาจมีกลิ่นเหม็น
  • ปัสสาวะ / อุจจาระมีเลือดปน
  • ปวดหลัง หรือปวดหลังร้าวลงขา
  • ขาบวม

มะเร็งปากมดลูก...เกิดจากไวรัส HPV

"มะเร็งปากมดลูก" ไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์เหมือนกับโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ แต่มีสาเหตุสำคัญมาจากการติดเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เอชพีวี (Human Papillomavirus) โดยการติดเชื้อ HPV จะพบบ่อยที่สุดในผู้หญิงช่วงอายุ 18-28 ปี หรือผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว แต่เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้จะใช้เวลานานนับ 10 ปีกว่าจะแสดงอาการของโรค ทำให้เรามักพบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่จะมีอายุระหว่าง 35-50 ปี

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หากพบเร็ว...ก็เพิ่มโอกาสการรักษา

  • แปปสเมียร์ (Pap smear) แพทย์จะทำการตรวจภายในแล้วใช้ไม้พายเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกเพื่อนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ ซึ่งการตรวจมะเร็งปากมดลูกวิธีนี้จะมีความแม่นยำประมาณ 50%
  • ตินเพร็พ (ThinPrep) แพทย์จะใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูก ก่อนใส่ลงในขวดน้ำยาตินเพร็พเพื่อนำส่งห้องปฏิบัติการต่อไป ซึ่งวิธีนี้จะมีความแม่นยำประมาณ 90-95%
  • ตินเพร็พ (ThinPrep) + ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA Test) วิธีนี้เป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูงที่สุด เพราะเป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับการตรวจดีเอ็นเอของเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก ซึ่งหากตรวจแล้วไม่พบว่ามีการติดเชื้อ ก็สามารถมั่นใจได้ถึง 99% เลยทีเดียว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ร่างกายของคนเรานั้นย่อมมีความเสื่อม และมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคต่างๆ มากมาย แม้ว่าเราจะเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนเพียงพอ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ หรือไม่มีพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพ แต่เราก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าสุขภาพของเราจะดีได้ตลอดไป เพราะนอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด มลภาวะ รวมไปถึงโรคทางพันธุกรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่จะทำให้เราเป็นโรคอะไรก็ได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การตรวจสุขภาพจึงมีความสำคัญในการคัดกรอง เพราะหากพบโรคเร็ว การรักษาก็จะได้ผลดีกว่าไปพบโรคในระยะรุนแรงหรือลุกลามไปมากแล้ว นอกจากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพื่อให้แพทย์ตรวจพบความเสี่ยงได้ก่อนที่เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจาย การป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่คุณก็สามารถทำได้ง่ายๆ คือ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง และหากสังเกตพบความผิดปกติก็ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเป็นโรคใด จะได้รีบทำการรักษาให้ถูกโรค